ศีล 5 หรือเบญจศีล คือ เจตนา หรือความตั้งใจที่จะงดเว้นการกระทำความชั่ว
ที่ถือเป็นหลักปฏิบัติขั้นพื้นฐานสำหรับผู้นับถือศาสนาพุทธ
ที่ทำให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข
มีข้อพึงปฏิบัติ 5 ประการ ได้แก่ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่พูดโกหก ไม่ดื่มสุรา
ซึ่งอธิบายพอให้เข้าใจได้ว่า
1) พึงละเว้นจากการฆ่าสัตว์
คือ งดการเบียดเบียนชีวิตอื่น
เพราะ มนุษย์มีวิจารณญาณที่จะหลีกเลี่ยงการทำร้ายชีวิตอื่น ด้วยเหตุผลที่ว่าสัตว์ทุกตัวรักชีวิต
เช่น ใครตีเรา เราตีเอาคืน
แต่แรงไปหน่อยถึงตายเลย
ถือว่าผิดทั้งกฎหมาย และผิดศีล
2) พึงละเว้นจากการลักทรัพย์
คือ งดการถือเอาของที่เจ้าของไม่ได้ให้มาเป็นของตน
เพราะ ทรัพย์ใดที่เจ้าของไม่ยินดีมอบให้ แล้วเราเอามาเป็นกรรมสิทธิ์โดยมิชอบย่อมเป็นความชั่ว
เช่น ขายของให้นายจ้างได้ตัง
แต่ยักยอกไว้ ไม่บอก ไม่ให้ เก็บไว้เอง
เจ้านายฟ้องดำเนินคดีได้ และผิดศีล
3) พึงละเว้นจากการประพฤติผิดในกาม
คือ งดการกระทำสิ่งที่ไม่ควรต่อเพศตรงข้าม
เพราะ มนุษย์รู้ว่าอะไรควร และไม่ควร ต่างกับสัตว์อื่นที่แสดงพฤติกรรมตามสัญชาติญาณ
เช่น เห็นเพศตรงข้ามอ่อนวัย
ก็ทักไปเสนอว่าพร้อมเปย์
แลกกับการให้มาอยู่ด้วย ทำกับหลายคน
พอถูกเทก็ไปทวงคืน
ถือว่าไม่เข้าตามตรอกออกตามประตู
เสี่ยงข้อหาหนัก และผิดศีล
4) พึงละเว้นจากการพูดเท็จ
คือ งดหลอกลวง ส่อเสียด เพ้อเจ้อกับผู้อื่นด้วยคำพูด
เพราะ มนุษย์รู้ผลของการสื่อสารด้วยวาจา และรู้ว่าสิ่งใดเป็นการพูดที่สุจริตหรือทุจริต
เช่น เห็นข่าวเชียร์ใคร ด่าใคร ชมใคร
ก็ผสมโรงด่าทอ เชียร์เกินเหตุ
ทำไปด้วยเจตนาไม่สุจริต ไม่มีข้อมูลจริง
ส่อเสียด บิดเบือน ประชดประชัน ให้ร้าย
พูดไปด้วยความสนุก แบบนี้ผิดศีล
5) พึงละเว้นจากการดื่มน้ำเมา
คือ งดดื่มสุราที่เป็นเหตุให้ไม่มีสติ อยู่ในความประมาท
เพราะ น้ำเมาจะเป็นต้นเหตุให้ขาดสติ และทำความชั่วทั้งปวงได้ โดยขาดการยับยั้งชั่งใจ
เช่น ดื่มแก้วเวียน ไม่ใช่แค่ขาดสติ
แต่ยังเสียสุขภาพ ตับไตใส้พุงเสื่อมถอย
เสี่ยงอุบัติเหตุ ยังเสี่ยงพาไวรัสเข้าบ้าน
เข้าตลาด เข้าที่ทำงาน เข้าโรงเรียน
กฎหมายเอาผิดดื่มแล้วขับ และผิดศีล